วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สวดมนต์

ดิฉันสามารถบอกให้เพื่อนหรือคนที่ดิฉันรู้จัก ไปทำบุญ หรือชวนคนเหล่านั้นมาสวดมนต์ได้นะ
ดิฉันสามารถบอกให้หลาย ๆ คนเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับความเชื่อที่ผิดได้
แต่ ดิฉันไม่สามารถทำให้ตัวเองมีความสม่ำเสมอในการทำบุญ หรือแม้แต่การสวดมนต์ ดิฉันก็ไม่สามารถทำให้เป็นเรื่องที่สม่ำเสมอไม่ได้ ดิฉันคงไม่ใช่คนดีอีกแล้วมั้ง
เพราะช่วงที่ดิฉันสวดมนต์เยอะ ๆ ดิฉันจะพยายามมาก ๆ เลย เวลาสวดมนต์ดิฉันไม่มีความสุขหรอกนะ ดิฉันจะระวัง จะกลัวว่าจะมีใครมาทำให้เสียสมาธิรึเปล่า แต่ก็มีบ่อยนะที่การสวดมนต์ของดิฉันทำให้มีจิตใจที่สงบเยือกเย็นและมีสติ มากขึ้นจริง ๆ แต่ช่วงหลังมา หลังจากที่ดิฉันไปบวชชีพราหมณ์มา 3 วัน (ดิฉันพาลูกชายกับแม่ไปอยู่ด้วยกันที่วัดด้วย) ดิฉันตั้งใจไว้แล้วว่าดิฉันจะไม่หยุดสวดมนต์ ดิฉันจะสวดมนต์ให้ได้ทุกวัน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เพราะอะไรรู้ไม๊

เพราะดิฉันสวดมนต์ทุกวัน ฐานะทางการเงินของแววก็แย่ลง แย่ลง แย่ลง จนไม่มีเงินเหลือในบ้านเลยแม้แต่ 1 บาท ดิฉันเอาเงินเหรียญบาทไปซื้อกับข้าวมาทำให้แม่กับลูกกิน ไม่มีลูกค้ามานวดที่บ้านของดิฉันเลย ไม่มีลูกค้าไปนวดที่ร้านที่ดิฉันทำงานด้วยเหมือนกัน นมของลูกหมด ดิฉันก็ไม่มีเงินไปซื้อนมให้ลูก ดิฉันต้องไปขอยืมพี่คนหนึ่ง ซึ่งเค้าเป็นลูกค้าของดิฉันให้เค้าช่วยหน่อย พี่เค้าก็ดีนะ ช่วยเหลือให้ดิฉันยืมเงิน ก็เลยรอดตัวไป ลองคิดดูนะ "ถ้าคุณมัวแต่สวดมนต์ แต่คุณไม่มีเงิน แล้วคุณมีภาระรอคุณอยู่ข้างหลัง คุณจะทำยังไง" ดิฉันรู้สึกว่าใจของดิฉันไม่บริสุทธิ์แล้วสำหรับการสวดมนต์ เพราะดิฉันสวดมนต์แล้วเครียด โมโหใส่แม่ และใส่อารมณ์กับลูก ดิฉันก็เลยเริ่มมองว่ามันไม่ใช่แล้วแหล่ะ ดิฉันเริ่มรู้สึกผิดในสิ่งที่ได้ทำกับแม่และลูก ดิฉันก็เลยเริ่มมองใหม่ ลองคิดใหม่ดู ว่าถ้าใจของดิฉันยังไม่พร้อม แล้วใจของดิฉันไม่บริสุทธิ์ ถึงแม้ดิฉันจะเสียดายเวลา 21 วันที่สวดมนต์มา แต่ดิฉันคิดว่าระยะเวลาทั้งหมดที่ดิฉันสวดมนต์มานั้น คงไม่มีความดีอะไรเลยมั้ง เพราะมันเป็นการเพิ่มทุกข์ให้ตัวเองอ่ะ และก็ทำให้แม่ไม่มีความสุขด้วย ดิฉันก็เลยหยุดก่อน ตอนนี้อาศัยสวดมนต์ระหว่างทางที่ไปเรียนการนวดแบบราชสำนักที่โรงเรียน (อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 10 กิโลเมตรได้มั้ง ก็ดีนะ สวดแล้วเหมือนปลดปล่อย ไม่รู้นะว่าวิธีนี้จะได้บุญไม๊ แต่รู้สึกสวดมนต์แบบนี้แล้วมีความสุข)

ตอน นี้ดิฉันอาศัยอย่างเดียว คือ ทำยังไงให้จิตใจของแววบริสุทธิ์ พยายามจะวางใจให้เป็นกลางนะ ไม่โมโห ไม่ใส่อารมณ์ มองอะไรรอบ ๆ ตัวของดิฉันที่ดิฉันต้องเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ มันคือเวรกรรมของดิฉันเอง มันคือสิ่งที่ดิฉันได้เคยทำไว้กับคนเหล่านี้ ในอดีต ในวันนี้ดิฉันก็เลยต้องมาชดใช้ให้เค้าน่ะสิ ดิฉันพยายามจะไม่ก่ออารมณ์ให้มัวหมองนะ เพราะมันจะยิ่งทำให้แย่ลงไปมากกว่าเดิมอีก

ตอนนี้ดิฉันขอทำความดีกับพระอรหันต์ในบ้านของดิฉันก่อนนะ "แม่ของดิฉัน"
ดิฉันไม่อยากทำให้แม่เสียใจอีกแล้ว
ทุกวันนี้ดิฉันก็ทำให้แม่ต้องมาลำบาก

ชีวิตของดิฉันเกิดมาไม่เคยทำให้แม่มีความสุขเลย ดิฉันทำให้แม่ทุกข์ตลอดเลยอ่ะ
แล้วทำไมดิฉันจะต้องไปขวนขวายหา "พระ" นอกบ้าน ด้วยล่ะ
ในเมื่อ "พระในบ้าน" ดิฉันยังไม่สามารถทำให้ท่านมีความสุขได้เลย
งานที่ดิฉันทำก็ไม่ประสบความสำเร็จ
เงินที่ได้มาก็ไม่เคยพอที่จะใช้จ่ายในบ้านเลย
แต่ ดิฉันมีความสุขนะ เพราะเงินทุกบาทที่ได้มา มันเกิดขึ้นมาจากความพยายามของดิฉัน มันคือหยาดเหงื่อแรงงานของดิฉัน ถึงแม้มันจะน้อยมาก ๆ เลยเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ดิฉันได้ใช้ไปเมื่อก่อน เทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
วันนี้ดิฉันมีความสุข อยู่บนคำ ๆ เดียว คือ "พอเพียง" ดิฉันได้รู้จักแล้วกับคำ ๆ นี้
วันนี้มี พอสำหรับพรุ่งนี้ แค่นี้แหล่ะ ที่ขอให้ได้เจอในแต่ละวัน
ดิฉันไม่ขอมากไปกว่านี้หรอก ถ้าได้มากหน่อยก็ดีจะได้เอาไปใช้หนี้ให้หมด ๆ ไป แล้วทีนี้ดิฉันก็จะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้แล้วแหล่ะ

แต่ชีวิตของเรามีอุปสรรคไว้ให้เราผ่านมันไปให้ได้ใช่ไม๊
ดิฉันก็ต้องผ่านอุปสรรคนี้ไปได้เหมือนกัน
แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น คงไม่มีใครตอบได้
ดิฉัน ก็ท่อง "คำขออโหสิกรรมทุกวันนะ" "แผ่เมตตาให้ตัวเอง" "แผ่เมตตาให้สัตว์" "แผ่ส่วนกุศล" อันนี้จะพยายามทำให้ได้ทุกวัน เผื่อเจ้ากรรมนายเวรของแววจะสงสารดิฉันบ้าง เปิดทางให้ดิฉันได้ประสบความสำเร็จกับชีวิตกับเค้าบ้างสักครั้ง
อันนี้คือความฝันเล็ก ๆ น้อยอ่ะนะ แต่คงยากที่จะเป็นจริง
เพราะ ดิฉันเคยอ่านหนังสือ เค้าบอกว่า ขอให้ประสบความสำเร็จ กับ รวย เนี่ย เป็นคำขอที่เป็นผลได้ยากมาก ๆ เลยแหล่ะ พอได้รู้อย่างนี้แล้ว ดิฉันก็เลยไม่ค่อยอยากหวังหรอก แค่แอบมีนิด เผื่อฟลุ๊ก 555

อย่าให้พรุ่งนี้ แย่กว่าวันนี้ก็พอแล้ว
ขอให้พรุ่งนี้ดิฉันมีลูกค้าก็พอแล้วแหล่ะ
ต่อให้ลูกค้าเยอะแค่ไหน
จากวันนี้ดิฉันจะไม่งอแง จะไม่ท้อถอย
เหนื่อยงานแล้วมีเงิน
ดีกว่าเหนื่อยใจ แล้วไม่มีเงิน
ดิฉันจะทำให้ได้
ดิฉันจะพยายาม
ขอแค่ให้ดิฉันมีลูกค้าเถ่อะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น