วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การถูกเอาเปรียบ

ตรีเคยคิดว่า  ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าเราจริงใจกับใคร  เราก็จะได้รับความจริงใจนั้นตอบแทนมา  แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เลยค่ะ  เหมือนตรีถูกหลอกใช้มากกว่า  ทุกคนเข้ามาหาตรีเหมือนจะจริงใจ  แต่แล้วทุกคนกลับคบที่ตรีเป็นหมอดู  สามารถชี้ทาง  แก้ไข  บอกอนาคตให้พวกเค้าได้  โดยที่พวกเค้าไม่ต้องจ่ายเงินค่าครู  แรก ๆ ตรีก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอก  เพื่อมิตรภาพ  แต่ถ้าคุยกันด้วยประสบการณ์  ตรีคิดว่าตรีรู้นะคะว่าถูกเอาเปรียบมาโดยตลอด  และด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ บีบบังคับ 

ถ้าตรีสามารถดูดวงให้ใครได้โดยที่ตรีไม่รับค่าครู  โดยที่ตัวตรีเองไม่เดือดร้อน  ตรีจะทำให้นะ  ตรีจะช่วยเหลือเท่าที่ตรีช่วยได้  แต่ตรีต้องบอกไว้ก่อนว่า  จากเรื่องราวที่เพิ่งผ่านมา  ไม่ใช่แค่คน ๆ เดียวที่เป็นแบบนี้  แต่กลายเป็นคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาพูดคุยกับตรี  เค้าต้องการสิ่งนี้จากตรีด้วยกันทั้งนั้น

ถ้าเป็นอย่างนี้  ตรีก็ไม่อยากคบใครให้มากเกินกว่าความเป็นลูกค้านะ  เพราะตรีเสียความรู้สึก  ทุกคนเอาความจริงใจของตรี  ไปเหยียบย่ำเล่นซะอย่างนั้น  มันทำให้ตรีรู้สึกว่า  ขนาดตรีเลือกที่จะไม่คบใครแล้วนะคะ  ตรีเลือกที่จะอยู่คนเดียวในสถานที่แบบนี้  ทุกคนที่ทำกับตรี  ล้วนแต่เคยเป็นลูกค้าของตรีทั้งนั้น  ตรีไม่เข้าใจเลย  ถ้าพวกเค้าไม่จริงใจกับเรา  แล้วเค้าจะเข้ามาวุ่นวายกับตรีทำไม

ในวันนี้ตรีต้องขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่คุ้มครองตัวตรี  ท่านทำให้ตรีสงบ  ไม่เสียความรู้สึกมากกับการถูกใช้ประโยชน์แบบนี้  แต่ท่านทำให้ตรีได้เห็นความเป็นจริงมากกว่าค่ะ  ทุกคนที่อยู่รอบตัวตรี  เดือดร้อนทุกคน  แต่ทำไมไม่มีใครคิดว่าตรีจะเดือดร้อนบ้างเหรอคะ  ตรีช่วยเหลือทุกคนด้วยความจริงใจ  แต่ทุกคนกลับเอาเปรียบตรี  เพราะความจริงใจที่ตรีมี

ขอบคุณที่วันนี้ทำให้ตรีได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเราไม่สามารถพึ่งพาใครได้เลยค่ะ  เราต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้นค่ะ  ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวรจริง ๆ เลยนะ

แล้วตรีก็ต้องกลับมาสู่ความสามัญอีกครั้งหนึ่งนะคะ  ไม่มีเพื่อน  ไม่มีพี่น้อง  ไม่มีญาติมิตร  ตรีมีแค่ลูกชายกับแม่เท่านั้นค่ะ  ที่รักเราจริง ๆ จริงใจกับเราโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน  เหมือนตรีหลงไปในวังวนของสังคมแห่งมิตรภาพ  แต่ก็ไม่นานนะ  เพราะสุดท้ายเราก็ต้องหลุดออกมา  และได้เห็นความจริงทุกข้อในวันนี้  มันแจ่มชัด  และรู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ 

เจ็บปวดนะ  กับความจริงใจที่ใครไม่เห็นคุณค่า  แต่มันทำให้ตรีรู้สึกว่า  ไม่ควรน้อยใจในโชคชะตา  เพราะทุกส่ิงบนโลกใบนี้  เกิดขึ้น  ตั้งอยู่  และดับไปเสมอค่ะ  ไม่มีอะไรคงทน  คนที่หลอกตรี เค้าก็หลอกตรีได้ไม่นานหรอก  เพราะตรีก็จะตาสว่าง  นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับตรี  สำหรับคนที่ไม่จริงใจกับเรา  เหมือนเรามีเกราะที่คอยป้องกันภัยเสมอค่ะ (เค้าจะฟ้องให้เรารู้ว่า  มันมากเกินไปนะ  ตรงนี้เกินขอบเขตนะ  ระวังอะไรประมาณเนี้ย  พอถึงจุดที่มันต้องจบ  มันก็จบโดยที่เรารู้ว่าเราทำดีที่สุดแล้ว)

เมื่อหมดเวรกรรมซึ่งกันและกัน  แต่ละคนก็ต้องไปในแนวทางของตนเองด้วยกันทั้งสิ้น  ตรีก็ต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อชดใช้เวรกรรมของตัวเองในบททดสอบที่เหลือ 

ขอบคุณนะคะที่ทำให้ตรีรู้ตัว  และไม่ต้องโง่อยู่นาน

ขอเชิญร่วมบริจาคเงินสร้างกุฎิถวายแม่ชี วัดกาลพัฒนาราม (วัดหนองเข้) จ.ชุมพร

[color=Blue]วันนี้ตรีมีบุญใหญ่มาให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ร่วมกันทำนะคะ
ตรีก็เป็นคนหนึ่งที่เคยไปบวชชีพราหมณ์และรู้สึกอยากมีโอกาสสร้างกุฏิให้กับคนอื่นได้มาอยู่อาศัยเช่นกัน  และวัดนี้เป็นวัดที่ค่อนข้างดังในจังหวัดชุมพร  แต่ด้วยความที่เจ้าอาวาสท่านเป็นคนสมถะไม่มีการเรี่ยไรเงิน  ทำให้การสร้างเป็นไปได้ช้ามาก ๆ ค่ะ  ตรีอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ 
เป็นการทำบุญร่วมสร้างกุฎิสำหรับแม่ชี และผู้ที่มาบวชชีพราหมณ์ที่วัดกาลพัฒนาราม (วัดหนองเข้) ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร  ซึ่งตอนนี้ก็มีแม่ชีหลายท่านที่มาบวชอยู่ที่วัดนี้นะคะ  แต่ต้องนอนรวมกับแม่ชีท่านอื่น  และบางครั้งไม่สะดวกในการทำกิจ  หลวงปู่ก็เลยมีความประสงค์ที่จะสร้างกุฎิสำหรับแม่ชีขึ้นค่ะ

หลวงปู่ตั้งใจจะสร้างเป็นห้องแถว 3 ห้อง  แต่ตอนนี้เสร็จไปแล้ว 1 ห้อง  เหลือ 2 ห้องค่ะ  ท่านจะสร้างตั้งแต่ต้นปี  แต่ด้วยความที่ท่านไม่ได้เรี่ยไรเงิน  คือ ใครต้องการบริจาคก็บริจาคกันมาสะสมกันไปเรื่อย ๆ ยังไม่มีกำหนดจะเสร็จเลยค่ะ

ตรีก็เลยขอเป็นสะพานบุญให้หลวงปู่  และพี่น้องชาวเว็บญาณทิพย์ในการบริจาคเงินช่วยสร้างกุฏินะคะ

อานิสงส์การสร้างกุฏิถวายพระภิกษุ สามเณร แม่ชี
ส่งผลให้ไม่ว่าจะเกิดภพชาติใด มีบ้านเรือนเป็นของตนเอง ไม่ต้องไปเช่าบ้านอยู่หรือเร่ร่อนพเนจร มีความร่มเย็นเป็นสุข เหมือนดังกุฏิที่เราได้สร้างถวายย่อม คุ้มแดดคุ้มฝน เป็นที่พำนักพักพิงให้แก่ ภิกษุทั้งหลายและยังส่งอานิสงส์ใหญ่ให้แก่ญาติที่เสียชีวิตไปแล้วหรือแม้ตนเองเมื่อจากโลกนี้ไปก็จะมีวิมานทิพย์ เสวยสุขในภูมินั้นๆ

แก้กรรมให้กับผู้ที่ ไม่มีที่อยู่เป็นของตนเอง ระเหเร่ร่อน ต้องเช่าเขาอยู่ เช่าเขาทำมาหากิน บางครั้งก็ถูกเขาไล่ที่บ้าง ขึ้นค่าเช่าบ้าง หรือพวกที่โดนเขาโกงบ้าน โกงที่อยู่ ที่ทำมาหากิน

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถโอนเงินได้ที่
บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา  สาขาชุมพร 
ชื่อบัญชี  อนุตตรีย์  เบญจโศภิษฐ์
เลขที่บัญชี 0691435465

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะคะ[/color]

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

พระแม่ธรณี


บ่อยครั้งที่ดิฉันรู้สึกท้อแท้ และหมดหวังต่อการกระทำความดี
ด้วยเพราะมีปัญหาและอุปสรรคมากมายที่คอยกระหน่ำซ้ำเติมอยู่บ่อย ๆ
และในวันหนึ่งดิฉันได้เจอกับบทความดี ๆ ที่ดิฉันอยากจะนำมาบอกต่อให้กับเพื่อน ๆ ได้ทราบกัน

ในวันนี้หากดิฉันเกิดท้อแท้หรือหมดหวัง  หรือไม่มีกำลังใจในการดำรงชีวิต
ดิฉันจะนำธูป 21 ดอกไปไหว้กลางแจ้ง  หันหน้าไปทางทิศเหนือ
ดิฉันจะระลึกถึงพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พ่อพระเพลิง พ่อพระพาย แม่พระโพสพ
ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งธาตุทั้ง 4 ในร่างกายของมนุษย์  และอีกหนึ่งเป็นตัวแทนแห่งความอุดมสมบูรณ์
ดิฉันจะขอพลัง ขอบารมีจากพวกท่าน และขอพรเพื่อให้ดิฉันสามารถก้าวผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปได้

จนมาถึงทุกวันนี้  ดิฉันได้ไหว้ทั้งพ่อและแม่มาหลายครั้งมาก ๆ แล้วค่ะ
ได้กราบไหว้สักการะบูชา  รวมไปจนถึงการขอขมาลาโทษ
ถึงสิ่งที่เราได้ล่วงเกินต่อท่าน  โดยที่เราจะระลึกได้หรือไม่ก็ตามที
ดิฉันจะรู้สึกถึงพระแม่ และพระบิดาในยามที่เราท้อแท้
ท่านเป็นเหมือนพลังขับเคลื่อนในรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งเป็นไปในรูปแบบของกำลังใจซะมากกว่าค่ะ
ทำให้ดิฉันสามารถมาถึงทุกวันนี้ได้
ถ้าไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ดิฉันอาจจะไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ก็ได้
ทั้งปัญหาการงาน  การเงิน และความรัก
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนประดังประเดเข้ามาพร้อม ๆ กันเลยทีเดียว
ในเมื่อเรามองไม่เห็นแล้วว่าใครจะสามารถมาช่วยเหลือเราได้
ดิฉันก็ได้บังเอิญเจอกับบทสวดมนต์ขอพรจากพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พ่อพระเพลิง พ่อพระพาย
และได้ใช้มาจนถึงทุกวันนี้

ดิฉันจะขอความมั่นคงทั้งทางร่างกาย  ทางจิตใจ  ทางสถานะของสังคมจากพระแม่ธรณี
ดิฉันจะขอความร่มเย็น, ความสงบ, ความอ่อนโยน  จากพระแม่คงคา
ดิฉันจะขอความอบอุ่น, ความปลอดภัย จากพ่อพระเพลิง
ดิฉันจะขอให้ปัญหาทุกอย่างที่พัดเข้ามา  ให้ผ่านพ้นไปได้โดยเร็ววัน จากพ่อพระพาย
ดิฉันจะขอความมั่งคั่ง  ความอุดมสมบูรณ์ จากพระแม่โพสพ
และดิฉันจะขอให้อำนาจแห่งธาตุทั้ง 4 ทั้งจากพ่อและแม่พัดพาชื่อเสียงของดิฉันไปกับสายน้ำ ผืนแผ่นดิน แสงแดด และสายลม ให้มีชื่อเสียงในการช่วยเหลือคนไม่ว่าจะได้มากได้น้อย  แต่ขอให้ได้ช่วยเหลือดิฉันก็พอใจแล้วค่ะ

นี่เป็นคาถาบูชาธาตุทั้ง 4 นะคะ
พระคาถาบูชาพระแม่ธรณี
นะโม 3 จบ (ธูป 21 ดอก)
โอม อัคคี คงคานัง วาโย อาโป ธรณี นะมะพะทะ
ทุติยัมปี อัคคี คงคานัง วาโย อาโป ธรณี นะมะพะทะ
ตะติยัมปิ อัคคี คงคานัง วาโย อาโป ธรณี นะมะพะทะ
ไหว้กลางแจ้งนะคะ  หันหน้าทางทิศเหนือ
สำหรับใครที่นับถือเทพเจ้าเหมือนกันค่ะ
ทุกสิ่งรอบตัวเราอาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ทุกสิ่ง
แต่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจทั้งหมดนะคะ

ปล่อยวาง

ทุกชีวิตที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ 
ล้วนขวนขวายดิ้นรนให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการทั้งสิ้น
ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการดิ้นรนขวนขวายให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการ
แต่ตอนนี้ยิ่งดิฉันดิ้นมากเท่าไหร่ 
ดิฉันเหมือนยิ่งเจอปัญหาและอุปสรรคมากขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำได้คือ "การปล่อยวาง"

ในเมื่อเราทำดีที่สุดแล้วกับปัญหาที่เราเจออยู่ในขณะนี้
แล้วเราไม่สามารถแก้ไขอะไรมันได้อีกแล้ว
และสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะเราเป็นต้นเหตุ
เราก็จำเป็นจะต้องปล่อยวางให้ได้ 
ทำใจให้ได้กับสิ่งที่เราต้องเผชิญหน้า
แหม! ประโยคนี้  พูดง่ายแต่ทำยากจังเลยค่ะ

ขนาดว่าดิฉันเจอปัญหามาเยอะนะคะ
เมื่อก่อนจะเครียดกับปัญหามาก ๆ เลยแหล่ะ
เก็บเอาไปคิดได้เยอะแยะมากมาย  บางครั้งเรื่องที่ดิฉันคิดยังไม่เกิดขึ้นมาเลยนะคะ
แต่ดิฉันสามารถคิดได้เป็นตุเป็นตะจนมันจบเลยแหล่ะ 
คิดว่าคงมีหลาย ๆ คนเป็นเหมือนกันนะคะ
คงมีอีกหลายคนที่เป็นแบบนี้ 
ดิฉันไม่ได้ให้คุณปล่อยชีวิตไปตามกระแสน้ำนะ
เพียงแต่ถ้าเราทำอะไรไม่ได้แล้ว  ทำไมเราต้องทำร้ายตัวเองด้วยล่ะ
เพราะถ้าทุกสิ่งทุกอย่างเราทำดีที่สุดแล้ว
แต่มันได้แค่นี้ 

คือเราไม่ได้ปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมนะ
แต่เราพยายามฝืนกระแสกรรมแล้ว
เราพยายามที่จะแก้ไขมันแล้ว
เราเก็บเอาความคิดต่าง ๆ นานาเกี่ยวกับปัญหามานั่งคิด นอนคิดเรียบร้อยแล้ว
แต่เราไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการคิดเลย

ดิฉันว่าถ้ามันเป็นอย่างนั้น
เราควรปล่อยวางมันไปเถ่อะค่ะ
อย่าทำร้ายตัวเอง  ด้วยการเอาปัญหามานั่งคิดแล้วคิดอีก
คิดซ้ำคิดซาก คิดไม่จบไม่สิ้น คิดไปจนขนาดเอาไปฝันกันเลยทีเดียว
ปัญหามันไม่ได้ทำร้ายเรานะคะ  แต่เราต่างหากที่ทำร้ายตัวเอง
เพราะเรามัวคิดถึงมันไง

ปล่อยวางกันดีกว่านะคะ
ดิฉันก็จะเริ่มต้นใหม่กับชีวิตด้วยคำ ๆ นี้ให้มากขึ้นค่ะ
ดิฉันจะไม่ยึดติดแล้วค่ะ
ถ้าดิฉันช่วยเหลือใครได้ 
ดิฉันก็จะช่วย 

ก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กันนะคะ
เริ่มต้นด้วยคำ ๆ นี้แหล่ะ
"ปล่อยวาง"

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เมื่อมันหมดเวลาของความรัก

ต้นเหตุแห่งการใช้ชีวิตร่วมกันของคนสองคน  นั่นคือ  ความรัก
และวันนี้  วันที่คนสองคนสามารถสิ้นสุดระยะเวลาในการใช้ชีวิตร่วมกัน  ก็คือ  ความรัก

ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี ที่ดิฉันใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายคนนี้  ผู้ชายที่ดิฉันเคยคิดเอาไว้ว่าจะใช้เวลาทั้งหมดของชีวิตเพื่อเค้า  ดิฉันจะอดทน ดิฉันจะพยายาม  ดิฉันจะต่อสู้  และไม่ท้อแท้กับปัญหาอะไรทั้งนั้น  เพราะดิฉันมีจุดยืนเรียบร้อยแล้ว  จุดยืนนี้  ดิฉันไม่ได้ทำเพื่อเค้า  หรือเพื่อตัวดิฉัน  แต่ดิฉันทำเพื่อลูกของดิฉัน

ครั้งหนึ่งเคยคิดว่า  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นดิฉันก็จะอดทน  เพื่อที่จะดึงเค้าไว้ให้สามารถอยู่ร่วมกันกับดิฉันและลูกได้  ดิฉันอยากให้ลูกโตขึ้นมาในครอบครัวที่อบอุ่น  ที่มีทั้งพ่อและแม่  แต่เมื่อวันเวลาได้ผ่านพ้นไป  ความอดทนที่ดิฉันมีต่อเค้า  การให้อภัยที่ดิฉันมีให้เสมอมา  มันคงไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว  ที่จะดึงให้ดิฉันสามารถอยู่ร่วมกับผู้ชายคนนี้ได้

เค้าทำให้ดิฉันต้องอับอาย  ด้วยการไปหยอกเย้ากับลูกน้องในบริษัท ซึ่งไม่ใช่แค่คนเดียว  แต่เป็นหลาย ๆ คน  ก็มีทั้งคนที่สมยอม  และไม่สมยอม  แต่เชื่อไม๊ความลับไม่มีในโลกจริง ๆ กี่ร้อยกี่พันครั้งแล้วที่เค้านอกใจดิฉัน  และดิฉันให้อภัย  เพราะคิดว่า  ยังไงก็พ่อของลูก  แต่รู้สึกการให้อภัยของดิฉันมันคงง่ายเกินไป  ก็เลยทำให้คน ๆ นี้สำนึกไม่ได้สักที

ครั้งล่าสุดเลวร้ายจนถึงขั้นไม่กล้าไปทำงาน  เพราะไปยุ่งกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว  และผู้หญิงเค้าก็ไม่ยอม  ต้องลงทุนลาออกจากบริษัทที่งานก็สบาย ๆ เดือนละ หมื่นกว่าบาทซะเฉย ๆ ไม่บอกเหตุผล  บอกแค่ว่าเบื่อ  แต่จริง ๆ แล้วเค้าไม่กล้าไปสู้หน้ากับคนในบริษัทต่างหากล่ะ

ดิฉันไม่ต้องไปตามหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยนะ  ทุก ๆ อย่างมันเหมือนกับต้องการวิ่งมาหาดิฉันเพียงคนเดียว  เพื่อให้เราได้รู้  เพื่อให้เราตาสว่าง  เพื่อให้เราได้รู้ว่า  เวลาของเราและเค้ามันหมดลงแล้วแหล่ะ  ดิฉันคิดว่า  ดิฉันคงชดใช้เวรกรรมให้เค้าจนหมดแล้วแหล่ะ  เพราะเมื่อเช้าก็ขอกรวดน้ำคว่ำขัน  ยกบุญกุศลที่เคยทำมาทั้งหมดในทุกชาติที่ผ่านมา  ดิฉันยกให้เลย  ขอให้จบเวรจบกรรมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ดิฉันอาจจะไม่ใช่ภรรยาที่ดีพอ  สามีจึงสามารถคิดนอกใจได้ตลอดเวลาที่ผ่านมา  ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เค้าไม่นอกใจ  ที่สำคัญนะ  ดิฉันจับได้  แต่ทำอะไรไม่ได้  เพราะถ้าพูดแรงก็จะต้องทะเลาะกัน  ให้คุณแม่่ของเรากับลูกชาย  ไม่สบายใจ  ดิฉันต้องอดทน  แต่พอมาถึงวันนี้  ดิฉันกำลังถามตัวเองว่า  ดิฉันจะทนทำไม  กับผู้ชายแบบนี้  เค้าเคยทำอะไรให้ดิฉันบ้างไม๊  เคยมีความมั่นคงในชีวิตให้บ้างไม๊  เคยคิดจะทำอะไรด้วยสองมือโดยไม่ขอคนอื่นบ้างไม๊

คำตอบคือ ไม่มี  เค้าไม่เคยแม้แต่จะเห็นใจดิฉัน  แล้้วดิฉันอยากรู้ว่า  ดิฉันจะทนไปทำไม  กับคน ๆ นี้ คนที่เค้ารักตัวเอง  รักความคิดของตนเองมากกว่าที่จะรักษาเกียรติให้เราบ้าง

วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คำอธิษฐานปล่อยสัตว์

นะโม 3 จบ
ข้าพเจ้าชื่อ...........................นามสกุล..............................................
เกิดวัน...............ที่.......... เดือน ....................... พ.ศ............. ตรงกับปีนักษัตร ...................
ปัจจุบันอายุ ...............ปี ได้ปล่อย ..........ชนิดสัตว์...........จำนวน ............ ตัว
ปล่อยเพื่อให้เป็นที่พึ่งแก่ตนเองเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ศัตรู
และ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ตัวที่เป็นที่พึ่งขอให้นำความสุขและโชคลาภมาให้ ข้าพเจ้า
ตัวที่ให้กับศัตรูและเจ้ากรรมนายเวร จงนำเอา สรรพทุกข์ สรรพโศก
สรรพโรค สรรพภัย สรรพเคราะห์ เสนียดจัญไร ออกไปจาก ข้าพเจ้า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ขอให้พระแม่ธรณี, พระแม่คงคา, พ่อพระเพลิง, พ่อพระพาย, แม่พระโพสพ,
ทวยเทพเทวาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้, เจ้าที่เจ้าทาง,
เทวดาที่รักษาตัวข้าพเจ้า, หลวงปู่โต, พญานาคราช และท่านท้าวพระยายมราช
จงเป็นสักขีพยานรับทราบกุศลเจตนาของข้าพเจ้า และคุ้มครอง ชีวิตสัตว์ให้ปลอดภัยจนสิ้นอายุขัย
ด้วยอำนาจของกุศลผลบุญนี้ จงสะเดาห์ เคราะห์ร้ายของข้าพเจ้าให้กลับกลายเป็นดี
มีความร่มเย็นเป็นสุข ประสพความสำเร็จสมหวังในสิ่งที่พึงปรารถนา
มีความเจริญก้าวหน้า มีชีวิตสดชื่น สุข สดใส ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไปด้วยเทอญ

โดยปกติแล้วดิฉันจะปล่อยสัตว์น้ำทุกเดือนนะคะ เดือนละ 1 ครั้งค่ะ
ปล่อยปลาไหล 2 ตัว, ปล่อยปลาดุก 2 ตัว
ดิฉันไม่ค่อยทำทีละหลาย ๆ ตัว (มันแพงเหมือนกันนะคะ)
คือทำตามกำลังมากกว่าค่ะ
และนิยมทำให้สม่ำเสมอนะคะ
เพราะการปล่อยสัตว์เป็นการสะเดาะเคราะห์แก้ดวงตกได้ด้วยค่ะ
ทำตั้งแต่ตอนที่เรายังดวงไม่ตก พอถึงเวลาดวงตกจริง ๆ ก็จะได้ไม่ตกไงล่ะคะ
ไม่ต้องกลัวนะคะว่าถ้าปล่อยปลาอะไรแล้วไม่ต้องรับประทานปลาชนิดนั้น
เพราะดิฉันเองก็รับประทานเหมือนกัน แต่พอหลัง ๆ ก็ไม่อยากรับประทานแล้วค่ะ
มันต่างกรรมต่างวาระกันนะคะ
อย่าคิดมากนะ เวลาทำบุญ
นี่เป็นเคล็ดค่ะ "เคล็ดประจำตัวเลยค่ะ"

ความทุกข์

ทุกคนเกิดมาล้วนมีปัญหา
ทุกคนเกิดมาล้วนมีความทุกข์
ทุกคนเกิดมาล้วนมีอุปสรรค
ทุกข้อที่ดิฉันกล้วมานั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนทุกคนจริง ๆ
ตั้งแต่เป็นทารก, วัยรุ่น, วัยทำงาน, จนถึงวัยเกษียณอายุราชการ
ล้วนมีความทุกข์ทั้งสิ้น เพียงแต่ความทุกข์ในแต่ละวัยนั้น
ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับภาวะในขณะนั้น

แต่ทุกความทุกข์ทั้งหลายบนโลกใบนี้
มีทางออกรอให้คุณหาเจอเสมอ
เพียงแต่คุณจะยอมออกมาจากความทุกข์เหล่านั้นหรือไม่
คุณพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงหรือไม่
คุณมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือไม่
คุณพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้จริงหรือไม่

นี่คือคำถาม สำหรับผู้ที่ต้องการหลุดพ้นจากความทุกข์
บางทีปัญหาที่คุณคิดว่าหนักหนาสาหัสแล้วสำหรับคุณ
มันอาจะไม่ใช่ความทุกข์ที่แสนสาหัสจริง ๆ ก็ได้
เมื่อถึงเวลาเราก็สามารถผ่านพ้นมาได้เสมอ
เพียงแต่เราแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับมันแค่นั้นเอง
เรากลัวกับความทุกข์ทั้ง ๆ ที่บางครั้งเรายังไม่ได้เจอกับมันเลยด้วยซ้ำ
เรากลัวมัน เพราะเราคิดถึงความทุกข์ตลอดเวลา
ความทุกข์อยู่กับเราตลอดเวลา
นั่นคือ "สิ่งที่เราคิดยังไงล่ะ"

เราทุกคน "คิด" ตั้งแต่ที่มันยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
ตั้งแต่ที่มันยังไม่มีมูลเหตุอะไรเลย
เราคิดตั้งแต่เริ่มรู้สึกไม่วางใจ, ระแวงต่อสิ่งรอบข้าง
เราคิดแล้ว "คิดที่จะกลัว" , จิตนาการไปเรื่อย ๆ
เป็นการสร้างอุปาทานในแง่ลบให้กับตนเอง
สร้างไปเรื่อย ๆ แล้วทีนี้แหล่ะ ความกลัวเหล่านั้นจะเป็นจริงขึ้นมาแหล่ะค่ะ

อย่ากลัวที่จะทุกข์นะ
อยากให้ทุกคนกล้าเผชิญหน้ากับมัน
และอยากให้ทุกคน "หยุดคิดถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึงสักทีนะคะ"


ไม่มีใครทำร้ายคุณหรอก ถ้าคุณไม่ทำร้ายตัวเอง